ยินดีต้อนรับครับ!

ขอบคุณที่ใช้โปรแกรม Little Reader นะครับ

ไม่ว่าคุณจะซื้อโปรแกรม Little Reader แล้วหรือว่ากำลังทดลองใช้อยู่ ขอให้สละเวลาสักนิดเพื่อชมวิธีโอคู่มือการใช้งานสำหรับผู้เริ่มต้นใช้โปรแกรมด้วยนะครับ เพื่อคุณและลูกของคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้โปรแกรม

การติดตั้งโปรแกรม Little Reader

คุณได้ทำการติดตั้งซอฟต์แวร์โปรแกรม Little Reader เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ถ้าคุณคือผู้ทดลองใช้โปรแกรม

สำหรับผู้ทดลองใช้โปรแกรม คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่ม คุณสามารถเริ่มใช้โปรแกรมได้เลย โปรแกรมทดลองมาพร้อมกับบทเรียน 9 วันแรกของหลักสูตร และคุณสามารถใช้บทเรียนนี้กี่ครั้งก็ได้ภายในระยะ 14 วันซึ่งอยู่ในระหว่างช่วงการทดลองใช้โปรแกรม

การเริ่มต้นบทเรียน

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักสูตรของ Little Reader

หลักสูตร Little Reader มีระยะเวลา 1 ปี (แบ่งออกเป็นสองเทอม เทอมละ 6 เดือน) ซึ่งจะค่อยๆนำพาลูกของคุณให้เรียนรู้จากคำเดี่ยว คำคู่ วลี ไปจนถึงประโยค และท้ายที่สุดคือนิทานเป็นเรื่องๆ หลักสูตรภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษที่มีจำหน่ายอยู่ในขณะนี้คือ หลักสูตรภาษาจีนกลาง

ข้อมูลเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับชนิดของบทเรียน

ก่อนที่คุณจะเริ่มให้ลูกดูบทเรียน คุณควรทราบข้อมูลเพิ่มเติ่มของบทเรียนแต่ละชนิดก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร และใช้งานในรูปแบบไหน

Word Flash

บทเรียนนี้ใช้วิธีการสอนแบบแฟรช ซึ่งทำได้โดยแฟรชบัตรคำ (หรือรูป) ให้ลูกดูอย่างรวดเร็ว และใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของสมองซีกขวาในการซึมซับข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว

บทเรียนนี้กระตุ้นให้มีการแสดงคำศัพท์ให้ลูกคุณดูอย่างรวดเร็ว บทเรียนได้รับการจัดมาให้เป็นการแสดงแบบอัตโนมัติ เพียงแค่ให้ลูกดูบทเรียนนี้เท่านั้นเอง ตามปกติแล้ว ในการดูบทเรียนแต่ละครั้ง ลูกคุณจะได้ดูคำทั้งหมด 9 คำ ( 3 คำ จาก 3 หมวดหมู่) แต่อย่างไรก็ดี ใน Session 2 ลูกคุณจะได้ดูคำใหม่เพิ่มอีก 9 คำ

Multisensory

บทเรียนนี้ใช้ได้ผลโดยการชักนำให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรจดจำคือคุณและลูกมีการพูดคุยและโต้ตอบกันระหว่างที่ดูบทเรียนนี้ นอกจากลูกจะได้ยิน และได้เห็นคำพวกนี้แล้ว ลูกยังได้รู้สึกถึงคำเหล่านี้เมื่อได้พบเจอในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น การช่วยจับมือให้ลูกปรบมือเมื่อเห็นคำว่า 'clap' เอามือลูบหูลูกเมื่อเห็นคำว่า 'ear' และให้ลูกได้ลองจับของสีเหลืองเมื่อดูคำว่า 'yellow' ถ้าลองนำประสาทการดมกลิ่น และชิมรสเข้ามามีส่วนร่วมในบทเรียนด้วยได้ จะทำให้บทเรียนน่าสนใจขึ้นมาก!

บทเรียนนี้ได้รับการจัดมาให้คุณคลิกเพื่อเปลี่ยนสไลด์ด้วยตนเอง (คลิกเม๊าท์หรือ สเปชบาร์) ดังนั้น คุณจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้ตามใจคุณ ลองไล่นิ้วตามคำที่อ่านเพื่อแสดงทิศทางของการอ่านหนังสือให้ลูกดู (ซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย)

Typically, six words from three Categories (eighteen words in total) are shown.

Picture Flash

บทเรียนนี้กระตุ้นให้มีการแสดงรูปภาพให้ลูกคุณดูอย่างรวดเร็ว ประโยชน์ของมันคือการทำให้เด็กเข้าใจความหมายของคำศัพท์อย่างถ่องแท้ ลักษณะการนำเสนอบทเรียนเหมือนกับ World Flash ซึ่งก็คือการแสดงบทเรียนแบบอัตโนมัติและเป็นรูปภาพของคำทุกคำในบทเรียนนั้นๆ

Pattern Phonics™

Pattern Phonics™ เป็นบทเรียนที่สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจเสียงตัวอักษรตามสัญชาตญาณและวิธีการแยกคำออกเป็นส่วนๆที่ต่างกันออกไป บทเรียนนี้จะแสดงคำที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันและสอดคล้องกัน (เช่น คำที่ขึ้นต้นด้วย 'b') โดยใช้สีในการแยกโครงสร้างของคำ

การนำเสนอบทเรียนเหมือนกับ Word Flash ซึ่งก็คือการแสดงบทเรียนโดยอัตโนมัติ บทเรียน Pattern Phonics™ จะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 21 ของสัปดาห์ที่ 5 เป็นต้นไป

Stories

ลูกของคุณจะได้ดูนิทานเป็นเรื่องๆในช่วงครึ่งเทอมของเทอมที่ 2 เป็นต้นไป และก่อนที่เด็กจะได้ดูบทเรียนนิทาน เด็กได้เคยดูคำหลายๆคำที่อยู่ในนิทานมาแล้ว

เราจำเป็นต้องเปลี่ยนสไลด์บทเรียนแต่ละหน้าด้วยตนเองเวลาที่ให้ลูกดูบทเรียนนี้ ซึ่งจะเหมือนกับบทเรียนของ Multisensory และคุณควรใช้เวลาเต็มที่ในการทำให้ลูกสนใจนิทานและพูดคุยโต้ตอบกับลูกไปด้วยในขณะที่ดูบทเรียนด้วยกัน

การปรับแต่งบทเรียนและการเพิ่มเนื้อหา

วิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกสนใจบทเรียนคือการปรับแต่งเนื้อหาบทเรียนที่คุณให้ลูกดู

การสร้างและแก้ไขเนื้อหา

สิ่งแรกที่เราสนับสนุนให้คุณลองทำดูคือการแก้ไขบทเรียนเรื่อง "Family" คุณสามารถแก้ไขบทเรียนได้โดยการทำ

> เพิ่มรูปภาพและวิดีโอในคำว่า "Mom" และ "Dad"

คุณยังสามารถแก้ไขเนื้อหาบทเรียนในหลักสูตรของเราได้ด้วย แทนที่จะใช้รูปจมูกห้ารูปจากสไลด์คำว่า 'nose' คุณสามารถลบรูปเหล่านั้นออกไป และเพิ่มจมูกแม่ จมูกพ่อ และจมูกของลูกคุณเข้าไปในบทเรียน! วิธีนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราแนะนำให้คุณลองทำดู เพราะจะทำให้บทเรียนมีความหมายต่อลูกของคุณมากยิ่งขึ้น

เมื่อคุณคุ้นเคยกับการสร้างเนื้อหาแล้ว คุณยังสามารถสร้างหมวดหมู่ใหม่ เช่น ผลไม้ท้องถิ่น และหัวข้ออื่นๆที่ลูกคุณสนใจเป็นพิเศษ

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องวิธีการสร้างและแก้ไขคำศัพท์

การเพิ่มเนื้อหา

นอกจากการสร้างเนื้อหาบทเรียนใหม่แล้ว คุณยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์บทเรียนเป็นพันๆไฟล์ได้จาก Little Readder Library!

เพียงแค่ไปที่ Little Reader Library และค้นหาหมวดหมู่ที่ลูกคุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ คุณสามารถคลิก "PREVIEW" เพื่อดูเนื้อหาก่อนที่จะดาวน์โหลด หรือคลิก "DOWNLOAD" เพื่อดาวน์โหลดบทเรียนลง Little Reader ได้โดยอัตโนมัติ!

บทเรียนที่คุณดาวน์โหลดจากห้องสมุดจะอยู่ที่ "Categories"

สิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่คุณควรตระหนักอยู่เสมอเวลาที่สอนลูกอ่านหนังสือคือ

ทำให้บทเรียนสนุกและเต็มไปด้วยความสุข

การทำแบบนี้หมายถึง:

> อย่าคำนึงถึงผลลัพธ์จนมากเกินไป

> อย่าบังคับให้ลูกดูบทเรียนถ้าลูกไม่อยากดู

การคิดถึงแต่ผลลัพธ์จะส่งผลให้เกิดสภาวะอารมณ์ที่ไม่ดี เช่น ความวิตกกังวล และความผิดหวัง ซึ่งลูกของคุณรู้สึกถึงอารมณ์เหล่านี้ได้ ในทำนองเดียวกัน การบังคับลูกจะไม่เป็นผลดีและจะทำให้ลูกมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการอ่านหนังสือ

สิ่งที่คุณควรทำคือ คิดเสียว่าเวลาดูบทเรียนด้วยกันเป็นการสร้างความผูกพันธ์ระหว่างคุณและลูก จุดมุ่งหมายคือการทำให้เด็กได้รู้จักการอ่านและมีความสุขเวลาได้อ่านหนังสือผ่านประสบการณ์ที่สนุกและเต็มไปด้วยความสุข หากคุณคิดถึงเรื่องความผูกพันธ์เป็นหลัก คุณจะเป็นครูที่ดีขึ้น และคุณจะได้พบว่าการที่ลูกอ่านหนังสือออกนั้นเป็นผลพลอยได้ที่น่ายินดี

ขอให้จำไว้ว่า นี่ไม่ใช่การแข่งขัน! การให้ลูกได้อ่านหนังสือไม่ว่าจะผ่านสื่อใดก็ตามในเวลาที่ลูกยังเล็กถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก

ดังนั้น สอนลูกด้วยความผ่อนคลายและความสนุก!

คำแนะนำที่สำคัญอื่นๆ

นอกจากการทำบทเรียนให้สนุกแล้ว ก็ไม่มีกฏไหนที่เรียกได้ว่าเป็นกฏเหล็ก

ยกตัวอย่างเช่น เราแนะนำว่าควรให้ลูกดูบทเรียนในหลักสูตร 5 วันต่ออาทิตย์ หนึ่งหรือสองครั้งต่อวัน นี่เป็นแค่คำแนะนำเท่านั้น เป็นเพียงการเสนอคำแนะนำให้คุณเลือกปฏิบัติไม่ได้หมายความว่า คุณต้องทำตามขั้นตอนนั้นให้ได้

เราเน้นอยู่เสมอว่า คุณคือครูคนแรกของลูก เพราะว่าคุณรู้จักลูกคุณดีที่สุด เด็กทุกคนแตกต่างกันออกไป และแม้แต่เด็กคนเดียวกันก็มีพฤติกรรมไม่เหมือนเดิมในช่วงเวลาที่ต่างกันออกไป! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรับการสอนให้เข้ากับสภาวะอารมณ์ของลูกและสภาพแวดล้อมของตัวคุณเอง ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ดังนั้น หากคุณเหนื่อยและอยากจะข้ามการสอนวันนั้นไป คุณก็ทำได้ ไม่มีปัญหา! และถ้าลูกไม่อยากดูบทเรียนในวันหรืออาทิตย์นั้น ก็ไม่เป็นไร! และถ้าคุณคิดว่าลูกคุณอ่านคำศัพท์เหล่านั้นได้แล้วและอยากข้ามไปบทเรียนอื่น คุณก็สามารถทำได้!