คำถามที่ถามบ่อย

Little Reader แตกต่างจากสื่ออื่นๆอย่างไร

ดูการเปรียบเทียบกับสินค้าอย่างอื่นได้ที่นี่

ลูกอ่านคำง่ายๆออกแล้วจากการใช้โปรแกรม XYZ แล้วอย่างนี้ Little Reader จะมีประโยชน์ไหม

หลักสูตร 1 ปี ของ Little Reader ได้รับการออกแบบมาเพื่อเด็กที่เริ่มอ่านหนังสือ เป็นไปได้ว่าลูกของคุณอาจจะคุ้นเคยกับคำศัพท์หลายๆคำที่มีอยู่ในหลักสูตร แต่อย่างไรก็ตาม:

  • หลักสูตรของ Little Reader ประกอบไปด้วยคำมากกว่า 3000 คำ จาก 180 หมวดหมู่ เริ่มจากคำเดี่ยว คำคู่ วิลี ประโยคจนไปถึงนิทาน ดังนั้นเป็นไปได้แน่ๆว่ามีคำหลายๆคำที่ลูกของคุณยังไม่คุ้นเคย

  • ได้มีการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับการเรียนโฟนิคส์ด้วย บทเรียน Pattern Phonics จะทำให้คุณมั่นใจว่าลูกของคุณจะได้เรียนรู้ทักษะสำคัญของการสามารถออกเสียงคำศัพท์ใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนได้ ฟังชั่นการแยกสีที่มากับ Little Reader ยังช่วยทำให้เด็กสามารถแยกส่วนประกอบของคำได้ (เช่น การแยกพยางค์ หรือแม้กระทั่งพยัญชนะ สระ และการผสมคำ)

  • สำหรับคำที่ลูกคุณคุ้นเคยแล้ว คุณสามารถกำหนดการแสดงตัวอักษรเป็นแบบตัวพิมพ์ใหญ่ หรือแบบตัวอักษรที่คุณพอใจ (เช่นตัวเขียน) เพื่อทำให้มั่นใจว่าลูกคุ้นเคยกับตัวอักษรในรูปแบบต่างๆที่พบเจอได้ในชีวิตประจำวัน

  • ห้องสมุดของ Little Reader ขยายได้อย่างไม่จำกัด! นอกจากคุณจะสามารถปรับแต่งบทเรียนของลูกให้รวบรวมคำที่ใช้เฉพาะเจาะจงกับวัฒนธรรมหรือท้องถิ่นของคุณ คุณยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์นับพันไฟล์จากห้องสมุดออนไลน์ของเรา ซึ่งไฟล์เป็นจำนวนมากทำขึ้นมาเพื่อเด็กที่มีทักษะการอ่านในระดับสูงขึ้น หรือแม้กระทั่งไฟล์ที่สอนความรู้เกี่ยวกับสาราณุกรม คุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์เป็นจำนวนมากเหล่านี้ได้ฟรี และมีไฟล์อื่นๆที่เป็นไฟล์พิเศษที่ต้องแลกด้วยคะแนนสะสม ซึ่งได้มาจากการซื้อสินค้าหรือการร่วมกิจกกรรมในฟอรั่ม

  • นอกจากนี้ Little Reader เป็นโปรแกรมที่เป็นที่นิยมในการใช้สอนภาษาต่างประเทศอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ห้องสมุดออนไลน์ของเรามีไฟล์ภาษาต่างประเทศกว่าพันไฟล์ เรายังมีหลักสูตรภาษาจีนที่คุณสามารถซื้อเพิ่มได้ (เสียงบันทึกในหลักสูตรเป็นภาษาจีนกลาง และตัวหนังสือแบ่งออกเป็นสองแบบคือ ภาษาจีนแบบย่อ และแบบดั้งเดิม) นอกจากนี้กำลังจะจัดทำหลักสูตรภาษาต่างประเทศหลักที่ใช้กันอยู่ ซึ่งคุณสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ทีหลัง

กลับไปด้านบน

หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นอันตรายกับเด็กทารกอย่างไร

หลายๆคนมีความคิดเห็นเชิงลบกับทีวีและหน้าจอคอมพิวเตอร์(โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก) แต่เหตุผลส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้อีกต่อไปเพราะเทคโนโลยีในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ หน้าจอทีวีและคอมพิวเตอร์แบบเก่า(โดยเฉพาะจอแบบเก่าที่เทอะทะที่เรียกว่า CRT ที่มีหลอดรังสีแคโถด)ได้ส่งรังสีเป็นจำนวนมากออกมา แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วเพราะจอ LCD ในปัจจุบัน

หน้าจอแบบเก่ามีอัตราการรีเฟรชที่ต่ำซึ่งทำให้บางคนเกิดอาการตาล้าถ้าต้องเพ่งหรือจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน หน้าจอในปัจจุบันมีอัตราการรีเฟริชที่สูงกว่ามาก นอกเหนือไปจากนี้ เด็กดูบทเรียนของ Little Reader ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น...ไม่ได้ใช้เวลาเป็นสองสามชั่วโมง ทีวีโดยทั่วไปแล้วยังถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่ดีนัก ยกตัวอย่างเช่น คำแนะนำจากสมาคมกุมารเวทศาสตร์อเมริกาที่แนะนำว่าเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ควรดูทีวี แต่จริงๆแล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวเครื่องทีวีแต่เป็นเนื้อหารายการ รายการจากช่องการ์ตูนที่มีการเปลี่ยนแปลงภาพอย่างรวดเร็ว กระหน่ำทำให้เด็กถูกกระตุ้นมากเกินไปจนทำให้เกิดโรคสมาธิสั้น

บทเรียนของ Little Reader ใช้เวลาไม่กี่นาทีและไม่เหมือนรายการการ์ตูนตามช่องทีวี

กลับไปด้านบน

Little Reader สอนโฟนิคส์ด้วยหรือเปล่า

โฟนิคส์มีบทบาทสำคัญในบทเรียนของ Little Reader เพราะโฟนิคส์คือทักษะสำคัญที่เด็กทุกคนต้องเรียนรู้

ในหลายๆวิดีโอที่เด็กกำลังอ่านหนังสืออยู่ เด็กหลายๆคนไม่ได้อ่านหนังสือตามหลักโฟนิคส์ แต่อ่านด้วยวิธีจำคำทั้งคำ วิธีนี้เรียกว่าการอ่านทั้งคำ (Whole word reading) หรือ การอ่านด้วยสายตา (sight reading)

สิ่งที่หลายคนนึกไม่ถึงคือ เมื่อเวลาผ่านไป การที่เด็กได้เรียนรู้และเข้าถึงคำเป็นจำนวนมาก เด็กสามารถที่จะรับรู้กฎของภาษาเขียน (เช่น กฎโฟนิคส์) ด้วยตนเองโดยสัญชาตญาณและอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งคล้ายกับวิธีที่เด็กเรียนรู้โครงสร้างภาษาพูดนั่นเอง

เด็กที่ภาษาท้องถิ่นคือภาษาอังกฤษ ไม่จำเป็นต้องเรียนกฎภาษาเช่นการเติม "s" ในพหูพจน์หรือการเติม ''ed'' เพื่อแสดงรูปอดีตกาล เพราะว่าเด็กเหล่านี้ได้ยินภาษาอังกฤษมากพอที่จะทำให้สามารถเดากฎและนำไปใช้ได้ในสถานการณ์ต่างๆที่พบเจอ นั่นคือเหตุผลที่บางทีคุณได้ยินเด็กพูดคำบางคำผิดเช่น พูด "gooses" แทนที่จะพูดว่า "geese" เพราะว่าเด็กเรียนรู้โครงสร้างการเติม 's' และนำไปใช้กับคำว่า "goose" และนี่เป็นสัญญาณที่ดีเพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเด็กเรียนรู้โครงสร้างคำได้อย่างง่ายดาย

ในทำนองเดียวกัน เด็กสามารถที่จะถอดรหัสโครงสร้างภาษาเขียนได้ด้วยตนเองโดยสัญชาตญาณและอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับ Little Reader เราสนับสนุนวิธีเรียนโครงสร้างโฟนิคส์ตามธรรมชาตินี้ด้วย ระบบ Pattern Phonics ของเรา ซึ่งเราสอนโฟนิคส์แบบไม่ได้ตั้งใจสอน แต่สอนด้วยการปล่อยให้เด็กได้คิดกฎโฟนิคส์ออกด้วยตนเองแบบค่อยเป็นค่อยไปตามสัญชาตญาณ นอกจาก Little Reader จะช่วยสะกิดความสามารถตามธรรมชาติของเด็กในการจำโครงสร้างคำ ยังช่วยให้เด็กจำโครงสร้างได้ง่ายขึ้นด้วยโดยการแสดงโครงสร้างของคำจากกลุ่มคำหลายๆกลุ่ม และยังช่วยแยกสีตัวอักษรเพื่อช่วยให้เด็กเห็นโครงสร้างได้อย่างชัดเจน (ดูตัวอย่างบทเรียน Pattern Phonics ได้ที่นี่) บทเรียน Pattern Phonics จะเริ่มวันที่ 21 ของหลักสูตร

ถ้าคุณหวังพึ่งการสอนอ่านแบบดั้งเดิมด้วยวิธีโฟนิคส์เพียงอย่างเดียว คุณต้องรอจนลูกอายุได้ประมาณ 3 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กพูดออกเสียงได้ชัดเจน คุณควรเริ่มจากการสอนตัวอักษร A ถึง Z เมื่อเด็กจำได้แล้วค่อยเริ่มสอนเสียงเช่น เสียง A คือ แอ, B คือ เบอะ C คือ เคอะ เป็นต้น หลังจากนั้นคุณก็เริ่มสอนให้เอาเสียงมารวมกันเช่น B +A+T แล้วทำเสียง BAT นี่คือวิธีการแสดงความเป็นเหตุเป็นผลของการสอนผ่านสมองซีกซ้าย และเป็นวิธีที่ผู้ใหญ่ใช้ในการเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม เราไม่เชื่อว่านี่คือวิธีที่ง่ายที่สุดที่เด็กอายุน้อยมากๆใช้ในการเรียนรู้ นอกจากนี้เราเชื่อว่า โดยการใช้ระบบ Pattern Phonics เราสามารถสอนกฎโฟนิคส์ให้เด็กได้ก่อนอายุ 3 ขวบ

กลับไปด้านบน

โปรแกรมเหมาะกับเด็กอายุเท่าไหร่ แล้วเด็กที่โตแล้วล่ะ

Little Reader จะเหมาะกับลูกคุณหรือไม่นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับอายุของลูกคุณมากนัก แต่คุณคือความสามารถในการอ่านของลูกคุณ คุณสามารถเริ่มใช้ Little Reader ได้เร็วสุดเมื่อลูกคุณอายุได้ 3-6 เดือน แต่พ่อแม่หลายคนก็ใช้โปรแกรมนี้สอนเด็กที่โตแล้ว โดยเฉพาะเมื่อต้องการเริ่มสอนภาษาต่างประเทศ

ข้อควรจำ: เด็กแต่ละคนหลายๆวัยตอบรับ Little Reader แตกต่างกันออกไป บางคนไม่สนใจเลยเมื่ออายุ 1 ขวบ แต่เมื่ออายุได้ 2 ขวบก็เริ่มสนใจโปรแกรมขึ้นเป็นอย่างมาก หรือตอน 1 ขวบชอบ แต่เริ่มไม่อยากดูตอนอายุได้ 2 ขวบ เด็กทุกคนมีความแตกต่างกันออกไป

กลับไปด้านบน

มีภาษาอื่นๆนอกจากภาษาอังกฤษไหม

Little Reader มาพร้อมกับหลักสูตรภาษาอังกฤษ (สำเนียงอเมริกัน และสำเนียงอังกฤษ) นอกจากนี้เรายังมีหลักสูตรภาษาจีนเต็มรูปแบบด้วย ซึ่งคุณสามารถซื้อเพิ่มได้ (เสียงบันทึกในบทเรียนเป็นภาษาจีนกลาง ตัวอักษรเป็นภาษาจีนแบบย่อ และภาษาจีนแบบดั้งเดิม) นอกจากนี้เรากำลังจะจัดทำหลักสูตรภาษาต่างประเทศหลักๆที่ใช้กันอยู่ ซึ่งคุณสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ทีหลัง

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์ภาษาต่างประเทศได้มากมายจากฟอรั่มของ Brillkids

กลับไปด้านบน

เมื่อไหร่ถึงจะเห็นผล

ประการแรก เราขอแนะนำอย่างจริงจังว่าคุณไม่ควรจะมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์

การมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดอารมณ์ในเชิงลบเช่น ความวิตกกังวล และความผิดหวัง ซึ่งเด็กสามารถรับรู้ความรู้สึกนี้ได้

แทนที่จะมุ่งไปที่ผลลัพธ์ นึกถึงเวลาให้ลูกดูบทเรียนเป็นเวลาที่เราได้สร้างความผูกพันธ์กับลูก จุดประสงค์คือการให้เด็กได้เข้าถึงการอ่านและสนุกเมื่อได้เรียนอ่านหนังสือ คิดเสียว่าเราได้ให้ประสบการณ์ที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความสุขกับลูกเรา ความมุ่งมั่นว่าจะสร้างความผูกพันธ์กับลูกจะช่วยทำให้คุณเป็นครูที่ดีขึ้น และคุณจะพบว่าการที่ลูกอ่านหนังสือออกเป็นผลพลอยได้ที่น่ายินดี

อยากไรก็ดี ค่อนข้างตอบยากว่าคุณจะเริ่มสังเกตุว่าลูกคุณเริ่มจำคำได้เมื่อไหร่ เด็กทุกคนแตกต่างกันและมีพัฒนาการในระดับที่ต่างกันออกไป แต่จุดหลักๆก็อยู่ที่ว่าคุณเริ่มสอนลูกเมื่อไหร่และลูกคุณสนุกกับการดูบทเรียนแค่ไหน

พ่อแม่บางคนที่เริ่มเร็ว(เช่น ลูกอายุ 5 เดือน) เริ่มสังเกตุเห็นว่าลูกสามารถจำคำบางคำได้ตอนอายุอย่างน้อย 9 เดือน บางครอบครัวที่เริ่มทีหลัง (ลูกอายุ 2 ขวบ) ลูกอาจจำคำได้หลังจากดูบทเรียนไปแล้ว 1 เดือน พ่อแม่บางคนรายงานว่าลูกไม่ได้แสดงออกว่าได้เรียนอะไรไปบ้างหลังจากดูโปรแกรมไปแล้วหลายเดือน อยู่ดีๆลูกก็อ่านออกเสียงคำที่เห็นตามท้องถนนได้

ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ขอให้จำไว้ตลอดเวลาว่านี่ไม่ใช่การแข่งขัน การที่คุณช่วยให้ลูกได้เข้าถึงการอ่านตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะเป็นประโยนช์ต่อลูกคุณอย่างแน่นอน

กลับไปด้านบน

ติดตั้งโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ได้กี่เครื่อง

ใบอนุญาตของคุณยอมให้คุณลงซอฟแวร์ในคอมพิวเตอร์ได้อย่างมากที่สุด 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน เมื่อคุณใส่รหัสลงโปรแกรม การบันทึกการเริ่มใช้โปรแกรมของคุณจะลงทะเบียนไปที่บัญชีสมาชิก Brillkids ของคุณ ถ้าคุณเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ เพียงแค่เข้าไปในบัญชีออนไลน์ของคุณและลบบันทึกการลงโปรแกรมของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นออกไปเพื่อจะได้มีที่ว่างสำหรับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่

กลับไปด้านบน